จากไวรัลบนโลกออนไลน์ ที่ช่วยปลุกกระแส ‘Y2K’ หรือช่วงเวลาในยุค 2000s ให้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในปัจจุบันนี้
เมื่อย้อนถึงความทรงจำต่อแวดวงดนตรีในยุคนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่มีสีสันมากมายในวงการ โดยเฉพาะผลงานจากค่าย ‘อาร์เอส’ ซึ่งมีกลุ่ม Boyband อย่าง ‘D2B’ ศิลปินอันดับต้นของค่ายในช่วงต้นยุค 2000s ผู้สร้างปรากฏการณ์ ‘บอยแบนด์ฟีเวอร์’ ไปทั้งประเทศ และยังเป็น 1 ใน Inspire ที่เดินทางมาสู่เส้นทางของ ‘T-Pop’ ในยุคปัจจุบัน
วันนี้ ‘เสียงดี’ จะพาผู้อ่านทุกท่าน นั่งไทม์แมชชีนเดินทางย้อนความทรงจำ ถึงช่วงเวลาของ D2B จากผลงานชิ้นสำคัญของ ‘พวกเขา’ ในวันนั้น สู่ความสุขของ ‘พวกคุณ’ จนถึงวันนี้
จุดเริ่มต้นของ "บิ๊ก แดน บีม"
จุดกำเนิดของ D2B เริ่มต้นขึ้นด้วยการก่อตัวบน ‘ความฝัน’ ของวัยรุ่น 3 คนจากต่างที่มา แต่มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน คือเส้นทางการเป็น ‘ศิลปิน’ ในวงการบันเทิง
เริ่มจาก ‘บีม-กวี ตันจรารักษ์’ ศิลปินฝึกหัดของค่ายอาร์เอส ที่มีผลงานกับทางต้นสังกัดมาได้ระยะหนึ่ง เช่น Music Video ‘เธอรักฉันรู้’ ของ ‘โมเม-นภัสสร บุรณศิริ’ และภาพยนตร์ ‘๙ พระคุ้มครอง’ พร้อมด้วย ‘แดน-วรเวช ดานุวงศ์’ และ ‘บิ๊ก-อภิเชษฐ์ กิตติกรเจริญ’ อีก 2 หนุ่มที่เข้าร่วมการประกวด ‘Panasonic Star Challenge’ ในปี พ.ศ. 2543 ทำให้ทั้ง 3 คน ได้มาพบกัน จากการเข้ามาเป็นนักร้องฝึกหัดของค่ายในช่วงเวลานั้น
ซึ่งเดิมที ทั้ง 3 คนจะได้ทำโปรเจกต์เดี่ยว แยกกันทีละคน แต่เมื่อโปรเจกต์ไม่สามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่น ทำให้ต่างต้องรอเวลาจากทางผู้ใหญ่อีกครั้ง
หลังเรียนไปได้อีกครึ่งปี ทางอาร์เอสก็ได้มอบ Project ให้ทั้ง 3 คนรวมตัวเป็นศิลปินกลุ่มบอยแบนด์หน้าใหม่ของค่าย ซึ่งเป็นการรวมตัวบอยแบนด์ทรีโอของอาร์เอส ในรอบเกือบ 10 ปี หลังเคยประสบความสำเร็จจาก ‘บอยสเก๊าท์’ และทิ้งช่วงจากการทำศิลปินกลุ่มเพลงป๊อปที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 2 คน ไปกว่า 8 ปี โดยไม่รวมถึงโปรเจกต์พิเศษต่าง ๆ ของค่าย
แม้ช่วงวัย และไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของทั้ง 3 จะมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่กลับไม่ใช่ปัญหาของ ‘แหม่ม-พัชริดา วัฒนา’ คุณครูผู้ดูแลศิลปินของอาร์เอส ที่นำ 'บิ๊ก แดน บีม' มาผสมกันให้กลมกล่อมด้วยความเข้าใจ
กลายเป็นบอยแบนด์หน้าใหม่ ในนาม ‘D2B’ ซึ่งนำมาจากตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกของชื่อเล่นของทั้ง 3 คน มาตั้งเป็นชื่อวง (Dan/Big/Beam) ให้เรียกติดปากได้ง่าย และยังนำมาตั้งเป็นชื่อ ‘อัลบั้มแรก’ ของพวกเขา ที่ออกมาในแนวเพลงป๊อป ผสมสไตล์ R&B
โดยมี ‘นิพันธ์ ช่วยสงเคราะห์’ มานั่งแท่นรับหน้าที่เป็น Producer ให้กับผลงานชิ้นแรกของ D2B พร้อมทั้งขนนักแต่งเพลงมากฝีมือของค่าย มาร่วมสร้างสรรค์งานเพลงชุดนี้ อาทิ บั๋ง-สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา, ปอร์-กสิ นิพัฒน์ผล, เกี้ย-อนุชา อรรจนาวัฒน์, เทพนม สุวรรณะบุณย์ ซึ่งทุกเพลงในอัลบั้มชุดแรกของ D2B ทีมเบื้องหลังของอาร์เอส ยังได้แฝงกิมมิกเล็กๆ ด้วยการเติมวงเล็บ ‘ชื่อเพลงเพิ่มเติม’ ต่อท้ายในชื่อเพลงทุกเพลงของอัลบั้มชุดนี้
“วันนั้นเราก็อยากทำงานที่มันดี ๆ ที่เรารู้สึกว่า อันนี้มันโอเค มันใช่ งานแบบที่ เวลามันผ่านไปสัก 5 ปี 10 ปี เรากลับมานั่งฟัง เรารู้สึกว่าคิดถูกแล้ว ที่เลือกทำอันนี้ วันที่ทำ ไม่มีใครรู้หรอก เพลงมันเป็นเรื่องที่เหนือความคาดเดา พอเราไปดูคุมร้อง เราดูในงาน เราดูภาพรวม มันมีบางอย่างที่รู้สึก มันมาแน่นอน” จาก ‘บั๋ง-สุทธิพงศ์’ 1 ในทีมทำเพลงหลักของอาร์เอส ที่มีส่วนร่วมในการทำอัลบั้ม D2B เปิดใจกับทีม Coolism ในปี 2562
ก่อนจะเสร็จสิ้น และพร้อมเปิดตัวซิงเกิลแรกส่งท้ายปี 2544 ด้วยเพลง ‘ต่อหน้าฉัน…(เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร)’ พร้อมการวางจำหน่ายอัลบั้มเต็มอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2544
ปรากฏการณ์ความ 'ซ่าส์'
“อนาคตของ ‘D2B’ ผมการันตีได้ว่า เป็น ‘Superstar’ มาแรง ทะลุปี 2545 อย่างแน่นอน!” - เริง รมณีย์ / คอลัมน์ บันเทิงไทยรัฐ, 20 ธันวาคม พ.ศ. 2544
แล้วสิ่งที่ ‘เริง รมณีย์’ ได้ทำนายไว้ ก็เกิดขึ้นจริง...
เมื่อ ‘ต่อหน้าฉัน’ ได้รับความนิยมสู่อันดับ 1 ในทันทีที่ปล่อยออกมาเป็นซิงเกิลได้ไม่นาน ซึ่งส่งผลให้อัลบั้มแรกนั้นมียอดขายที่ถล่มทลายอย่างชั่วข้ามคืน
อีกทั้งสามารถเรียกเสียง ‘กรี๊ด’ จากผู้ชมทั่วฮอลล์ ‘อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก’ อย่างล้นหลาม ในคอนเสิร์ตเปิดตัวครั้งแรกของ D2B ที่งาน ‘RS MEETING CONCERT STAR MISSION มันหลุดโลก’ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2544 แม้ในขณะนั้น อัลบั้มจะวางแผงไปได้เพียงแค่ 4 วัน และขึ้นมาร้องเพียงแค่เพลงเดียวก็ตาม
พ.ศ. 2545 จึงกลายเป็นปีทองของปรากฎการณ์ ‘D2B Fever’ ที่มากไปด้วยทัวร์คอนเสิร์ต และงานแสดงอย่างล้นหลาม หลังสามารถผ่านยอดขายมาได้ทะลุถึง 1,000,000 ชุด ผ่านบทเพลงต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องกว่าค่อนอัลบั้ม อาทิ ซ่าส์ (สั่นๆ), ไม่เปลี่ยนใจ (เธอคนเดียว), อยากเป็นคนนั้น (ในใจเธอ), เธอรักคนอื่น (จริงหรือเปล่า) โดยเฉพาะ ‘คนใจอ่อน (อ่อนใจ)’ เพลงฮิตตลอดกาล จากเสียงร้องของ ‘บิ๊ก’ ขวัญใจชาว Sniper ที่ยังโด่งดังมาถึงปัจจุบัน
“ขอบคุณครับ บิ๊กถือว่าตัวเองได้เดินทางมาถึงฝันแล้ว เพราะบิ๊กอยากเป็นนักร้อง แต่ไม่คิดว่าฝันจะเป็นจริงได้ พอมีวันนี้เลยดีใจครับ” - สัมภาษณ์ ‘บิ๊ก-อภิเชษฐ์’ จากหนังสือพิมพ์ ‘ไทยรัฐ’ เมื่อปี พ.ศ. 2545
จนทำให้เกิดอัลบั้มพิเศษ ‘D2B Summer’ ที่ตามออกมาเพื่อขอบคุณแฟนเพลง ด้วยเพลงใหม่ และเพลงฮิตเวอร์ชั่นพิเศษ และในปี 2546 ก่อนจะมีอัลบั้มชุดถัดมา D2B ยังสามารถคว้ารางวัล ‘Favorite Artist Thailand’ (ศิลปินไทยยอดนิยม) จากเวที ‘MTV Asia Awards 2003’ ที่ประเทศสิงคโปร์ มาครองในปีนั้น ซึ่งนับเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศอันสูงสุดของ D2B
ภายหลัง อัลบั้มแรกของ D2B ยังได้รับการยกย่องจากนิตยสาร ‘DDT.’ เป็น 1 ใน 100 อัลบั้มเพลงไทยชั้นดีในรอบทศวรรษ (2540-2549) เมื่อปี พ.ศ. 2550 อีกด้วย
ไม่มีเธอวันนั้น ไม่มีฉันวันนี้
“…การที่พวกเรามาถึงวันนี้ได้ พวกเราไม่เคยลืมครับ ว่าสิ่งที่ได้มา เราได้จากแฟนเพลงทุกคน ซึ่งพวกเราได้คุยกัน รวมไปถึงคำสอนของคุณพ่อคุณแม่ จะเตือนให้เราระลึกเสมอ ‘หากไม่มีแฟนๆ เราก็จะไม่มีวันที่จะมาถึงความสำเร็จตรงจุดนี้ได้’ แดนขอเป็นตัวแทนฝากบอกทุกคนว่า ‘เราทั้ง 3 คน ยังเป็นคนเดิมของทุกๆ คนครับ’...” ประโยคเปิดใจจาก ‘แดน-วรเวช’ ที่ให้สัมภาษณ์กับ ‘ไทยรัฐ’ เมื่อปี 2545
แม้ภายหลังจะมีเหตุการณ์สะเทือนใจ ที่ทำให้ชื่อของ ‘D2B’ ต้องขาดช่วงจากการทำงานในวงการบันเทิงร่วมกัน จนถึง ‘การสูญเสีย’ ครั้งยิ่งใหญ่ ที่ทำให้ ‘แดน-บีม’ ต้องแยกย้ายไปเติบโต และต่างมีผลงานในวงการบันเทิงให้ได้หายคิดถึงอยู่เป็นระยะ
แต่ความคิดถึง ที่ยังคงส่งถึง ‘ผู้ร้อง’ และ ‘ผู้ฟัง’ ทำให้เกิดคอนเสิร์ตรียูเนียน D2B ขึ้นมา ตั้งแต่ปี 2557 ในคอนเสิร์ต ‘คิดถึง D2B LIVE CONCERT 2014’ และทุกครั้งที่มีคอนเสิร์ต D2B ก็ยังได้รับการตอบรับที่ประสบความสำเร็จ ด้วยปรากฏการณ์ Sold Out ทุกครั้ง จนถึงวันนี้
“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพราะเราคือ D2B” ประโยคสั้นๆ แต่แฝงด้วยความหมายที่กินใจ จาก ‘แดน-วรเวช’ ใน Teaser คอนเสิร์ต “D2B ETERNITY CONCERT : 22 ปี นับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ” ช่วยตอกย้ำถึง ‘ความผูกพัน’ และ ‘คำสัญญา’ ของเพื่อนร่วมทางได้อย่างลึกซึ้ง
สะท้อนกลับมาถึง ‘ความลงตัว’ ในคาแรกเตอร์ของ แดน-บิ๊ก-บีม ที่กลายเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ ว่าทั้ง 3 คน ไม่ได้มาเพียงเพราะขายหน้าตา เพื่อรอเวลาให้ปรากฎการณ์นี้เลือนหายไปเท่านั้น
แต่ทุกความตั้งใจในการทำผลงานของ D2B ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง ยังคงทุ้มเข้าไปในใจชาว ‘Sniper’ ทุกท่าน มาเป็นเวลาถึง 22 ปีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปรากฎการณ์ในยุค ‘ล้านก๊อปปี้’ ถึงปรากฎการณ์ ‘Sold Out’ อย่างรวดเร็วในคอนเสิร์ตของ D2B ทุกๆ ครั้ง จึงกล่าวได้ว่า D2B ยังคงสามารถยืนหนึ่งต่อวงการเพลงไทย ในสาขาศิลปินกลุ่มบอยแบนด์ จนถึงปัจจุบันนี้
D2B ในรูปแบบแผ่นเสียงคุณภาพสูง
จากผลงานชั้นเยี่ยมที่ทำให้ทุกท่านได้รู้จักกับชื่อ D2B ซึ่งออกวางจำหน่ายในยุครุ่งเรืองของเทปคาสเซตและซีดี กลายเป็นปรากฏการณ์ฟีเวอร์ถึงล้านชุดเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ Format ‘Vinyl’ ที่เคยขาดหายได้กลับมาเป็นที่นิยมของนักฟังและนักสะสมอีกครั้งในยุคปัจจุบัน
จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ ‘เสียงดี’ ได้นำอัลบั้มที่มีคุณค่าเหนือกาลเวลาชิ้นนี้มาผลิตใหม่ในรูปแบบ ‘แผ่นเสียง’ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ผ่านกระบวนการ Lacquer Cut โดย Mastering Engineer ระดับปรมจารย์อย่าง Bernie Grundman แห่ง Bernie Grundman Mastering ประเทศสหรัฐอเมริกา การันตีว่าแผ่นนี้ห้ามพลาดสำหรับแฟนคลับ D2B ตัวจริง
เป็นเจ้าของอัลบั้ม D2B ในรูปแบบแผ่นเสียง ได้แล้ววันนี้