หากย้อนเวลากลับไปสัก 2 ทศวรรษ ยุคที่ความนิยมแผ่นเสียงเริ่มถูกเทปคาสเซ็ทแทรกแซง ช่วงปี 90s-2000s คือห้วงเวลาที่ศิลปินบอยแบนด์กลายเป็นปรากฏการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์แห่งดนตรีไม่ว่าจะต่างประเทศ หรือในไทย ทุกคนได้รู้จักกับวง Westlife, Backstreet Boys, Boyz II Men และอีกมากมาย แต่ถ้าว่ากันในบ้านเราก็คงจะต้องนึกถึง Raptor, UHT, Boy Scouts, D2B เป็นอันดับแรกๆ ที่สร้างกระแสความนิยมได้ถล่มทลายเป็นพลุแตก
บทความนี้จะนำผู้อ่าน ที่รักเสียงเพลงทุกท่าน หวนสู่ยุค “เก้าศูนย์ และสองพัน” ที่ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็เจอแต่ศิลปินบอยแบนด์ และที่สำคัญไม่ใช่แค่บอยแบนด์โลกตะวันตกเท่านั้น เพราะประเทศไทยเองก็สามารถสร้างสรรค์บอยแบนด์ออกมายอดเยี่ยม มีเอกลักษณ์ และประทับในความทรงจำได้ไม่แพ้กัน
ทบทวนกันสักหน่อยว่าวงที่อยู่ในความทรงจำของคุณ มีวงไหนบ้าง
“ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็มีแต่คนวิ่งตามเสมอ ราวกับ Beatlemania ได้เกิดขึ้นอีกครั้งในยุค 90s ส่วน MTV ก็โดนเพลงของพวกเขายึดครองไปโดยปริยาย”
– Timothy White อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Rolling Stone
ปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรดาเด็กยุค 90s -2000s ต้องเติบโตขึ้นมาโดยมีซาวด์แทร็กของบทเพลงที่ขับร้องโดยเหล่าแก๊งหนุ่มหน้าใสไปโดยปริยาย และความคลั่งไคล้ที่กลุ่มแฟนคลับมีต่อศิลปินเหล่านี้ เปรียบเสมือนคลื่นพายุที่ถาโถมเข้าสู่ชายฝั่งอย่างรุนแรง มีเหตุการณ์มากมายที่เป็นข้อพิสูจน์ว่า ศิลปินบอยแบนด์ในยุคสมัยดังกล่าวได้รับความนิยมมากแค่ไหน
หลังจากเปิดหัวทศวรรษเก้าศูนย์ได้ไม่นาน ในฟากตะวันตกถือเป็นช่วงเวลาของจุดเริ่มต้นแห่งความรุ่งโรจน์ของศิลปินบอยแบนด์ที่มีวงอย่าง Boyz II Men, Backstreet Boys และ All-4-One ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน บ้านเราก็มีวงบอยแบนด์ไม่ว่าจะ U4, Dr.Kids, และ Boy Scouts ที่ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยแต่ละวงจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว U4 มาด้วยภาพจำชายหนุ่มหน้าใส 4 คน ได้แก่ เคน คมสัน, จิมมี่ ศิวกร, นิค นิคณภัทร และ ซันนี่ ญาณวรุตม์
ในขณะที่ Dr.Kids และ Boy Scouts มีความเป็นเด็กขี้เล่น อารมณ์ดี แฝงความยียวนปนหยอกเย้ามากกว่า แต่สิ่งที่เหมือนกันคือเคมีระหว่างสมาชิกที่กลมกล่อม ทำให้เกิดฐานแฟนคลับที่ไม่ได้สนใจแค่ผลงานเพลงเท่านั้น แต่พวกเขาสนใจความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกมากไม่น้อยหน้ากัน
สิ่งที่บอยแบนด์ไทยแตกต่างจากบอยแบนด์ตะวันตกอย่างชัดเจนที่สุด ในช่วงต้นยุค 90s เห็นจะเป็นเรื่องของแนวเพลงและเนื้อร้อง ในขณะที่บอยแบนด์ต่างประเทศส่วนใหญ่ชัดเจนด้วยกลิ่นอาย R&B ป๊อป แต่บอยแบนด์ไทยส่วนใหญ่กลับมาในแนวป๊อปจังหวะสนุกสนาน ฟังแล้วรู้สึกอยากขยับร่างกายตาม
ส่วนเนื้อเพลงบอยแบนด์ต่างประเทศนำเสนอความรักโรแมนติกเป็นหลัก แต่บอยแบนด์สัญชาติไทยนั้นถ้าไม่ใช่เพลงแนวสนุกสนาน ขี้เล่นกวน ๆ ก็จะเป็นแนวอกหักฟูมฟายไปเลย เช่นเพลง ‘ข่าวร้าย’ ของ Dr.Kids ที่กลายเป็นซิงเกิ้ลฮิตถล่มทลายทั่วประเทศ
ช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 90 สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าบอยแบนด์คือปรากฏการณ์สำคัญแห่งประวัติศาสตร์ดนตรีสมัยใหม่ กับการเปิดตัวของ NSYNC, 98 Degrees, Five, Westlife และอีกมากมายก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่านี่คือ ‘ยุคทอง’ แห่งบอยด์แบนอย่างแท้จริง
ส่วนในประเทศไทยก็ได้รู้จักกับวงอย่าง Raptor, UHT, และ ทิค แทค โท ที่เข้ามาสร้างปรากฎการณ์ โดยเฉพาะเพลง ‘คิดถึงเธอ’ ของ Raptor ที่เรียกได้ว่าดังทั่วบ้านทั่วเมือง กับท่อนเวิร์สติดหู “คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ มันเป็นอะไรที่พูดยาก…ต้องให้เธอแก้”
นับว่าเป็นช่วงที่บรรดาค่ายเพลงมีการเรียนรู้ว่าจะสร้างบอยแบนด์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงมีวงบอยแบนด์จากค่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เกิดขึ้นมากมาย เพราะทุกคนต่างก็อยากมีส่วนร่วมในปรากฏการณ์นี้
ที่จะเห็นชัดเจนในบ้านเราก็ยังคงไม่ทิ้งเอกลักษณ์บอยแบนด์ในแบบฉบับของตัวเอง ในขณะที่บอยแบนด์ต่างประเทศสร้างสรรค์เพลงแนว R&B ป๊อป จนโด่งดังเป็นพลุแตก แต่เพลงของบอยแบนด์สัญชาติไทยส่วนใหญ่ ยังคงเน้นไปที่เพลงป๊อปจังหวะสนุกสนาน ขี้เล่น แฝงอารมณ์ขัน
“เจ็บนี้รสปูอัด รสปูอัด” ท่อนหนึ่งจากเพลง ‘รสปูอัด’ ของศิลปินไจแอนท์ น่าจะสะท้อนอารมณ์ขันแบบไทยที่แฝงไว้ในวัฒนธรรมบอยแบนด์ได้อย่างชัดเจนที่สุด
นอกจากเนื้อเพลงชวนอมยิ้มแล้ว บอยแบนด์ไทยยังมาพร้อมท่าเต้นอันน่าจดจำ ที่จนถึงทุกครั้ง ไม่ว่าเพลงเกรงใจของ Raptor จะดังขึ้นมาเมื่อไร ท่าเต้นโหนรถเมล์ในตำนานก็ตามมาเมื่อนั้น
เรียกได้ว่าถึงแม้บอยแบนด์จะกลายเป็นกระแสฮิตไปทั่วโลกในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แต่บอยแบนด์ในแต่ละประเทศก็แตกต่างกันออกไป ตามวัฒนธรรมสังคมของประเทศนั้น ๆ
ขยับเข้ามาในช่วงทศวรรษ 2000 หากใครยังจำกันได้กับวงเลือดใหม่อย่าง 2gether, Dream Street, และ Blue เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่ก็มีวงอย่าง Dragon Five และ D2B โดยเฉพาะรายชื่อหลังที่หากจะบอกว่าเป็นบอยแบนด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมาก็คงไม่ผิดนัก เคมีที่เข้ากันเหลือเกินของ ‘บิ๊ก แดน บีม’ นำพาให้พวกเขาทั้งสามนั้นกลายเป็นวงบอยแบนด์ที่โด่งดังไปทั้งประเทศไทยและสาว ๆ ค่อนประเทศคลั่งไคล้แบบไม่มีอะไรมาฉุดได้ จนพาให้เทปคาสเซ็ทของพวกเขามียอดจำหน่ายทะลุ 1,000,000 ตลับ เพียงในเวลาอันสั้น จนกลายเป็นปรากฏการณ์วงการดนตรีบ้านเรา
แต่หลังจากนั้นในระหว่างปี 2001-2010 สูตรสำเร็จที่ถูกใช้กันมาตลอดสำหรับการปั้นศิลปินชายกลุ่มกลับไม่รุ่งเหมือนแต่ก่อนเสียแล้ว ถึงกระนั้นความซบเซานั้นก็ไม่สามารถจะฉุดรั้งความป๊อปนี้ลงไปได้ ดั่งคำของ Bill Werde อดีตบรรณาธิการ Billboard เคยกล่าวไว้ว่า
“มันไม่มีอะไรมากกว่าการที่แค่ผู้คนเริ่มเบื่อ และหันไปเสพดนตรีแนวอื่น ๆ เป็นวัฏจักรดนตรีที่เป็นอย่างนี้มาอย่างยาวนาน มีการจากไปและกลับมาเสมอ ไม่ว่าอย่างไรบอยแบนด์ก็กลับมาอีกครั้งในอนาคตอย่างแน่นอน”
เพราะขึ้นปี 2010 เสียงกรี๊ดที่เคยได้เงียบหายไปก็กลับมาเต็มเสียงอีกครั้งไม่ว่าจะเป็น 5 หนุ่มบอยแบนด์แห่งยุคจากเกาะอังกฤษ One Direction และบอยแบนด์จากแดนกิมจิอย่าง TVXQ, Bigbang, Shinee หรือวงที่เป็นกระแสที่สุดในปัจจุบันอย่าง BTS สำหรับไทยก็มีค่ายลูกของ RS อย่าง Kamikaze ที่สร้างปรากฏการณ์ความสนุกให้วงการดนตรีบ้านเราอยู่พักใหญ่ ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ เงียบหายไปและปิดตัวลงตามวัฏจักรดนตรี
เชื่อได้เลยว่าในอนาคตปรากฏการณ์บอยแบนด์จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งอย่างแน่นอน ในผลงานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของแผ่นเสียงให้สะสม หรือผลงานในรูปแบบดิจิทัลต่างๆ พร้อมหยิบจับบริบทสังคม และป๊อปคัลเจอร์ในช่วงเวลานั้นมาเป็นประเด็นบอกเล่า ผ่านการผสมผสานและสร้างสรรค์จนเกิดเป็นรูปแบบบอยแบนด์ใหม่ที่ในตอนนี้พวกเราอาจจะยังนึกภาพไม่ออก
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าคงไม่มีสิ่งใดจะสามารถทดแทนเสน่ห์ของบอยด์แบนยุค ‘90s-2000s ได้ บทเพลงของพวกเขายังคงดังก้องอยู่ในความทรงจำ และไม่ว่าจะถูกเปิดขึ้นมาเมื่อไร มันก็พร้อมทำหน้าที่ดึงผู้ฟังให้หวนนึกถึงวันวานในอดีตที่สวยงามเสมอ
หากคุณกำลังคิดถึงบรรยากาศเหล่านั้น เรากำลังจะวางจำหน่ายแผ่นเสียงอัลบั้มพิเศษ ‘The Memory Throwback’ ของ Raptor และผลงานชุดแรกของ D2B ในรูปแบบแผ่นเสียง สำหรับวัยรุ่นยุค ‘90s ที่ถูกนำมา remaster และ lacquer cut โดย Bernie Grundman ที่ผลิตในจำนวนจำกัด
คนไหนที่คิดถึงบทเพลงในวันวานของ Raptor และ D2B สามารถติดตามรายละเอียดในการจับจองเป็นเจ้าของได้ทางเพจ
SIANGDEE เร็ว ๆ นี้