มารู้จักคำว่า "ลำโพงล่องหน" ของเหล่านักเล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียง

มารู้จักคำว่า "ลำโพงล่องหน" ของเหล่านักเล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียง

ถ้าให้เลือกเอาหนึ่งสิ่งที่เป็นความฝันของคนรักเสียงเพลง หนึ่งในหลายข้อนั้น คงมีเป็นเรื่องอยากฟังเพลงที่บ้านแต่ได้บรรยากาศเหมือนฟังการแสดงสด

มาทำความรู้จักกับ "ลำโพงล่องหน" หรือบ้างก็เรียกว่าลำโพงที่ให้เสียง "หลุดตู้" คือเสียงเพลง หรือดนตรีนั้นหลุดพ้นออกมาด้านนอกของตู้ลำโพง เสมือนเครื่องดนตรีหรือนักร้องออกมายืนเล่นอยู่ตรงหน้า
สำหรับผู้อ่านหลายๆคนที่หลงใหลการดูดนตรีสด คงเข้าใจถึงมนต์เสน่ห์พิเศษของความรู้สึกที่มีเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นมาเล่นให้ฟังอยู่ตรงหน้าเป็นอย่างดี แต่จะทำอย่างไรถ้าเราอยากยกบรรยากาศแบบนั้น จากศิลปินที่เราชื่นชอบมาไว้ที่บ้าน ยิ่งโดยเฉพาะในสภาวะ New Normal ที่ Event คอนเสิร์ตต่างๆ ยังไม่กลับมาอย่างเต็มรูปแบบ วันนี้เราจะมาพูดถึงการ Setup ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ฟังดนตรีมาแสดงให้ฟังตรงหน้ากัน
 
เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่าน โดยเฉพาะท่านที่เป็น Concert Goer น่าจะคุ้นเคยกับ Concert Gigs ที่ขนาดจุผู้ชมไม่มากนัก ( 200-500 คน ) และ Setup เป็น Circle หรือ Half Circle Stage ที่คนดูสามารถล้อมวงฟังดนตรีได้ โดยมีวงดนตรีอยู่ตรงกลาง สังเกตไหมว่าในการจัดรูปเวทีลักษณะนี้ คนฟังอย่างเราๆจะยิ่งได้ยินมิติเสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นชัดมากๆ


เราจึงขอเล่าให้ฟังถึงที่มาของ Setup ที่อาจนำพาให้ผู้ฟังสามารถเข้าใกล้กับประสบการณ์แบบนี้ให้ได้มากที่สุดหรือที่เรียกกันว่า "ลำโพงล่องหน"
หลักการ Setup ที่เป็นปัจจัยหลักๆก็ได้แก่
ห้องที่ใช้ฟังเพลง ควรเป็นห้องที่สมมาตร หรือเรียกง่ายๆว่าระยะ กว้าง ยาว สูง ของห้องควรจะเป็นระยะสเกลใกล้เคียงกับ 4 เหลี่ยมลูกบาศก์ หรือ 1 ต่อ 1.5 เช่นสมมุติห้องกว้าง และสูงด้านละ 3 เมตร ควรจะมีความยาวประมาณ 4.5 เมตร
และสิ่งที่ควรนำพิจารณาอีกเรื่องที่สำคัญคือ DPOLS หรือ Dead Point Of Live Sound
เคยสังเกตไหมว่ามันจะมีบางจุดในบ้านที่เราพูดออกไปแค่เบาๆ แต่เกิดเสียงก้องเยอะมาก แต่บางจุดของห้องเช่นใกล้ๆกับผ้าม่านผืนใหญ่ แทบจะไม่มีเสียงสะท้อนเลย
นั่นแหละ เราสามารถสั่งเกตได้ง่ายๆด้วยการเดินตบมือไปรอบๆห้อง จุดที่มีเสียงสะท้อนคือ Live ส่วนในจุดที่ไม่มีเสียงก้องคือ Dead 


หลังจากนั้นสามารถลอง Setup ได้โดยเอาลำโพงคู่โปรดของคุณ ที่ผ่านการ System Burn In ร่วมกับชุดเครื่องเสียงจนได้ที่แล้ว ลองมาจัดวางในห้อง โดยที่จุดวางลำโพงควรจะเป็นจุด Dead เพื่อป้องกัน Frequency Resonance รวมไปจนถึงเสียงสะท้อนที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ และควรอยู่ห่างจากผนัง 1 ฟุตเป็นอย่างน้อย ซึ่งลำโพงควรห่างจากผนังเป็นระยะที่เท่าๆกันทั้ง 2 ตัว จากนั้นลองหาแผ่นเสียงคุณภาพการบันทึกเสียงดีๆ ที่คุณชอบ และคุ้นหูซัก 2-3 แผ่น หากเป็นแผ่นเพลงที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีอะคูสติก 2-3 ชิ้นจะดีมาก โดยจุดนั่งฟังที่เหมาะสมที่สุด (Sweet Spot) ส่วนมากจะเป็นระยะประมาณ 2 เท่าของระยะห่างระหว่างลำโพงทั้ง 2 ตัว ลองฟังและลองขยับจุดวางลำโพงทีละ 2-5 ซม. ให้ห่าง-ชิด ขนานกันไปเรื่อยๆ ค่อยๆทำไป ซัก 1-2 ชั่วโมงพอหูเริ่มจะล้าก็พักแล้วมาลองใหม่ จนได้ผลลัพท์ที่คุณพอใจ
การจะได้มาซึ่งที่สุดของสุนทรียะไม่ควรต้องรีบร้อน

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรปัจจัยอื่นๆ เช่นคุณภาพของอุปกรณ์และสายต่อพ่วงต่างๆ ขนาดของห้องเหมาะสมกับกำลังขับของ System ไหม การบันทึกเสียงของแผ่นเสียงที่เราใช้ในการ Setup ลามไปถึงองค์ประกอบอีกมากมาย แม้กระทั่ง "หู" ของคุณเอง ล้วนส่งผลต่อสภาวะ "ล่องหน" ของลำโพงทั้งสิ้น ดังที่บางท่านอาจจะเคยอ่านผ่านตาว่า บางทีลงทุนกับ System ไปเป็นราคานับล้านเข้าแล้ว ลำโพงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะแสดงศักยภาพล่องหนให้ได้ฟัง แต่สำหรับบางคน เพียงแค่ปรับแต่ง เปลี่ยนอุปกรณ์เพียงเล็กน้อย ก็ได้สัมผัสถึงคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นจนผิดหู
ทุกสิ่งอย่างที่กล่าวมาล้วนตั้งอยู่บนคำเดียวคือ"จริต" ฟังไปเถอะ ถ้ามันดีแล้ว ถูกใจเราแล้ว อย่าไปยึดติดกับสิ่งใดเลย ทั้งหมดทั้งมวลนั้น มนุษย์ล้วนเสพเสียงเพลงเพื่อความสุขไม่ใช่หรือ ?
Back to blog